การเลือกซีพียูมีขั้นตอนง่ายๆในการพิจารณาคือ “ประสิทธิภาพที่คุ้มค่าต่อการใช้งานของคุณ” กล่าวคือ การจะเลือกซีพียูนั้นให้มองที่การใช้งานประจำวันของคุณเป็นหลัก ผู้ใช้มือใหม่ เน้นราคาประหยัด
ซีพียูที่น่าสนใจในกลุ่มนี้ Celeron D 420:1.60GH,512KBL2,800MHz,Socket775 ราคา1,300บาท กลุ่มนักเล่นเกมตัวยง
ซีพียูที่น่าสนในกลุ่มนี้ ข้อสังเกต ซีพียู่ในกลุ่มของ Core 2 Duo จะมีให้เลือก 2 รูปแบบในซีรีส์เดียว ตัวอย่างเช่น E6850 ซึ่งทั้งคู่จะมีความคล้ายคลึงกันมาก ต่างกันเพียงระบบบัสที่เปลี่ยนจาก 1066MHz มาเป็น 1333MHz แต่ปัจจุบันจะมีเพียง E6550/E6750 และ E6850 ที่จำหน่ายอยู่เท่านั้น การใช้งานกราฟิกเป็นหลัก ในบรรดากลุ่มผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ด้วยกันนั้น กลุ่มของงานกราฟิกและการตัดต่อ นับเป็นกลุ่มที่ต้องการศักยภาพในการทำงานสูงสุด เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นระบบการเข้ารหัสไฟล์วิดีโด การตัดต่อภาพ การเรนเดอร์ออปเจ็กต์สามมิติที่มีขนาดใหญ่ ล้วนแต่พึ่งการทำงานของซีพียูเป็นหลัก ดังนั้นแล้วซีพียูที่ใช้ต้องสามารถตอบสนองต่อการประมวลผลที่ซับซ้อนได้ด ีและมีเทคโนโลยีที่รองรับโปรแกรมเฉพาะทางเหล่านี้ได้ด้วยซึ่งซีพียูที่รองรับการทำงานได้ดีในด้านนี้มีให้เลือกด้วยกันหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น Intel Core 2Quad หรือ AMD Phenom ที่เป็นแบบ Quad Core ที่เพิ่งวางจำหน่ายช่วงปลายปี 2550 มานี้ ซีพียูที่น่าสนใจในกลุ่มนี้ Intel Core 2 Extreme 9650:3.00GHz,1 2MB L2 1333MHz bus,Socket 775 ผู้ที่ชอบความเงียบของไร้เสียงรบกวน ผู้ใช้กลุ่มนี้ จะเน้นการทำงานในระดับกลาง สำหรับการชมภาพยนตร์ในแบบโฮมเธียเตอร์และเพียงพอสำหรับการเล่นมีเดียไฟล์คุณภาพสูง (Hi-Def) กลุ่มนี้จัดเป็นกลุ่มที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันมากทีเดียว ด้วยรูปแบบของซีพียูที่กินไฟน้อย เกิดความร้อนต่ำจึงทำให้ออกแบบการระบายความร้อนได้ง่ายขึ้น รวมถึงการใช้พัดลมน้อยลงเกิดเสียงดังรบกวนที่น้อยเนื่องจากมีเทคโนโลยี Enhance SpeedStep หรือ Cool”n Quietจึงลดความร้อนในการทำงานลง สามารถใช้ในเคสคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กได้อีกด้วย ซีพียูที่น่าสนใจมีด้วยกันหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น Athlon X2 BE2xxx Series หรือซีพียูรุ่นใหม่จากอินเทลในแบบ 45nm ก็ตาม
ตรวจสอบความถูกต้องของซีพียูง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง
องค์ประกอบและเงื่อนไขในการรับประกัน การรับประกันเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ทีเดียว โดยเฉพาะกับซีพียูที่ค่อนข้างมีความอ่อนไหวและมีราคาที่สูง หากเกินความเสียหายหรือมีอาการผิดปกติขึ้นในระหว่างการใช้งานส่วนของการรับประกันจะจำเป็นมากทีเดียว โดยส่วนใหญ่การรับประกันจะมีตั้งแต่ 1-5 ปี ขึ้นอยู่กับผู้จำหน่ายแต่ละรายกำหนดไว้ ซึ่งสิ่งสำคัญ การเลือกซื้อเมนบอร์ด ปัจจุบันในตลาดมีเมนบอร์ดให้เลือกอยู่หลากรุ่นหลายยี่ห้อ แม้ในซีรีส์ที่เป็นชิปเซตเดียวกัน ยังถูกจำแนกออกเป็นรุ่นต่างๆมากมายโดยมีฟีเจอร์หลักที่ไม่ต่างกันมากนัก แต่ด้วยการออกแบบลูกเล่นต่างๆประกอบเข้าไป เช่นชุดระบายความร้อนคุณภาพของชุดคาปาซิเตอร์ดีไซน์ ไบออส และคุณภาพ จึงกลายเป็นจุดขายที่แต่ละค่ายนำมาเสนอ ดังนั้นการเลือกใช้ต้องพิจารณาจากรูปแบบ ฟังก์ชันการใช้งานรวมถึงคุณภาพและราคาที่เหมาะกับผู้ใช้เป็นหลัก โดยเฉพาะในเรื่องของซิปเซตที่มีอยู่มากมายให้เลือกใช้ การเลือกเมนบอร์ดสำหรับการใช้งานให้ถูกใจนั้นมีหลักที่ควรพิจารณา 4 ข้อคือ ซีพียูและซ็อกเก็ต สำหรับปัจจุบัน ทาง Intel นั้นยังคงใช้ซ็อกเก็ต 775อยู่เช่นเดิมไม่ว่าจะเป็น Celeron D,Pentiun 4,PentiunD,Core2Duo ไปจนถึง Core 2 Extremeและ Core 2 Quad และให้สังเกตบัสของซีพียูที่นำมาใช้ว่าเป็น FSB 800,1066หรือ1333ซึ่งชิปเซตในแต่ละรุ่นก็จะมีการสนับสนุนต่างกันออกไป มีฟังก์ชันต่างๆ ครบถ้วนตามที่ต้องการหรือไม่ ฟังก์ชันที่เป็นองค์ประกอบพื้นฐานไปจนถึงฟีเจอร์ต่างๆที่มีอยู่ในซิปเซต รวมถึงองค์ประกอบที่สำคัญของเมนบอร์ด ซึ่งประกอบไปด้วย สล็อตของหน่วยความจำ แม้ว่าแนวโน้มราคาในตลาดจะตกลงมาพอสมควร เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่การเลือกแรมความสูงอย่าง2GBที่มีราคาสูงกว่า 1GBอยู่มากอาจเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลนัก หากต้องการใช้งานโดยทั่วไปดังนั้นแล้วการเลือกเมนบอร์ดที่มีสล็อตแรมที่มากถึง 4 ช่องแล้วเลือกแรมขนาด 1GBติดตั้งครั้งละ 1-2แถว และยังมีช่องสำหรับอัพเกรดได้ในอนาคต ก็ช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากทีเดียว
พอร์ตสำหรับต่อพ่วงฮาร์ดดิสก์ หลายคนให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องของการจัดเก็บข้อมูล ดังนั้นแล้วการเลือกเมนบอร์ด ให้มีพอร์ตสำหรับรองรับฮาร์ดดิสก์ได้จำนวนมาก จะช่วยให้เกิดความสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เมนบอร์ดหลายรุ่น ยังเพิ่มเติมฟังก์ชันพิเศษ ให้ผู้ใช้เพิ่มประสิท ธิภาพในการเก็บข้อมูลได้ดีขึ้นด้วยคอนโทรลเลอร์สำหรับการต่อพ่วง RAID 0,1,0+1,5JBOD ที่มีประโยชน์ทั้งการจัดเก็บข้อมูล ความเร็วและระบบปลอดภัย และข้อสังเกตหนึ่งก็คือ ในปัจจุบันเมนบอร์ดส่วนใหญ่จะให้พอร์ตต่อ IDE มาเพียงช่องเดียว ดังนั้นมักจะเกิดปัญหากับผู้ที่อัพเกรดจากระบบเก่า ที่ส่วนใหญ่จะใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ IDE ดังนั้นการเลือกเมนบอร์ดที่มีคอนโทรลเลอร์พิเศษที่เพิ่มพอร์ต IDE มาเพิ่มเติมให้ก็จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ PCI สล็อต หลายครั้งการที่เมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆ ในตลาดติดตั้งสล็อต PCI มาให้น้อยลง กลายเป็นปัญหากับผู้ใช้ที่มีการ์ดต่อพ่วงจำนวนมาก ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีการติดตั้งระบบเสียและเน็ตเวิร์กจะถูกติดตั้งมาบนเมนบอร์ดอยู่แล้ว แต่ต้องไม่ลืมว่าหากเป็นการใช้งานระบบมัลติมีเดียหรือนำ มาใช้ในการตัดต่อแล้ว จำเป็นต้องมีการ์ดต่อพ่วงที่เสริมเข้ามามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการ์ดตัดต่อ, การ์ดสำหรับ IEEE 1394/USB, การ์ดเสียง, ทีวีจูนเนอร์ ในบางครั้งมีการ์ด SCSII และการ์ดสำหรับการเพิ่มฮาร์ดดิสก์ หากมีสล็อต PCI เพียงสองสามช่องคงไม่เพียงพอ ดังนั้นแล้วหากจำเป็นต้องใช้งานในรูปแบบดังกล่าวควรเลือกเมนบอร์ดที่ให้มีสล็อต PCI มากขึ้น รวมไปถึงการมองรูปแบบอื่นที่เป็นทางเลือกมาเสริม เช่น USB หรือ IEEE1394 พอร์ต USB2.0, IEEE1394 นับเป็นพอร์ตที่สำคัญอย่าง มากสำหรับผู้ที่มีอุปกรณ์ต่อพ่วงอยู่มากมายเนื่องจากในเวลานี้ อุปกรณ์ส่วนใหญ่มักใช้พอร์ต USB ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ด้วยการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็วและใช้งานได้ง่าย สะดวก ไม่ว่าจะเป็นกล้องดิจิตอล เครื่องเล่นเอ็มพีสาม พรินเตอร์ สแกนเนอร์ การ์ดรีดเดอร์ ทีวีจูนเนอร์หรือแม้กระทั่งฮาร์ดดิสก์แบบภายนอก (External drive) ในบางครั้งการใช้งานที่บ้านหรือสำนักงานที่ไม่มีเครื่องส่วนกลาง คอมพิวเตอร์ส่วนตัวก็จะรับหน้าที่ในการต่อพ่วงอุปกรณ์ต่างๆ ไปโดยปริยาย ดังนั้นแล้วการเลือกเมนบอร์ดก็ควรจะให้มีพอร์ต USB ที่สามารถเพิ่มเติมจากมาตรฐานได้ ซึ่งดูได้จากพอร์ตต่อพ่วงในแบบ Expansion ที่ติดตั้งอยู่บนเมนบอร์ดนั่นเอง ไบออสที่รองรับการปรับแต่ง สิ่งนี้อาจไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่สำหรับนักโอเวอร์คล็อกแล้วละก็ ไม่ควรมองข้ามทีเดียว เนื่องจากช่วยในการเร่งประสิทธิภาพซีพียูและอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างมีเสถียรภาพ ดังนั้นแล้วการเลือกเมนบอร์ดที่มีไบออสรองรับการปรับแต่งได้ ก็จะช่วยให้การ ปรับแต่ง สัญญาณนาฬิกา แรงดันไฟ ระบบบัส ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยสร้างเสถียรภาพของระบบได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเตือนอุณหภูมิ การตั้งรอบพัดลม รวมไปถึงการปรับฟีเจอร์ต่างๆ ของซีพียู สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ทีเดียว ชุดระบายความร้อน ในอดีตการระบายความร้อนบนเมนบอร์ดอาศัยแรงลมจากพัดลมซีพียูเป็นหลัก แต่ปัจจุบันปัญหาจากความร้อนของบรรดาอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งบนเมนบอร์ด เริ่มมีมากขึ้น ส่งผลให้อายุการทำงานของชุดจ่ายไฟและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สั้นลง ดังนั้นแล้วผู้ผลิตหลา ยรายจึงให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว ดังนั้นผู้ใช้ที่มักติดตั้งอุปกรณ์จำนวนมากไว้ภายในเครื่องหรือชอบการโอเวอร์คล็อกควรเลือกเมนบอร์ดที่มีชุดระบายความร้อนที่ดีกว่าปกติ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของเมนบอร์ด แม้ว่าอาจจะมีราคาสูงกว่าอยู่บ้าง แต่นับว่าคุ้มค่ากับการใช้งานที่ยาวนานขึ้น คุณภาพของวัสดุและการออกแบบ การออกแบบและวัสดุในการผลิต มีส่วนสำคัญอย่างมากกับการเลือกใช้เมนบอร์ด แม้ว่าจะเป็นไปได้ในการเข้าไปดูกระบวนการผลิตที่โรงงาน แต่ก็มีข้อสังเกตในหลายจุดที่ไปดูกระบวนการผลิตที่โรงงาน แต่ก็มีข้อสังเกตในหลายจุดที่ทำให้มั่นใจได้ ตั้งแต่เรื่องของแพ็กเกจของเมนบอร์ดที่ควรจะมีอุปกรณ์มาตรฐานเตรียมไว้ให้ไม่ว่าจะเป็น คู่มือ แผ่นไดร์เวอร์ ซอฟต์แวร์บันเดิล สายสัญญาณ รวมไปถึงชุดต่อพ่วงสัญญาณจากเมนบอร์ด ซึ่งควรจะมีรายละเอียดสำคัญของเมนบอร์ดอธิบายไว้ มีชุดระบายความร้อนให้กับชิปเซตหรือถ้าให้ดีก็ควรมีการระบายความร้อนให้กับภาคจ่ายไฟเพิ่มเติมเข้ามาด้วย และที่สำคัญคือ คุณภาพของคาปาซิเตอร์ที่ในปัจจุบันหลายค่ายเริ่มนำ Soild Capacitor ที่ทนต่อแรงดันไฟได้สูงมาใช้ ถึงแม้จะมีราคาที่แพงขึ้นอยู่บ้าง แต่ก็ให้ความคุ้มค่าในระยะยาวลดความเสี่ยงอันอาจเกิดกับอุปกรณ์ตัวอื่นที่ติดตั้งอยู่บนเมนบอร์ดในกรณีที่มีการลัดวงจรหรือระเบิดได้อีกด้วย ราคาและการรับประกันเป็นอย่างไรบ้าง เรื่องของการรับประกัน ให้สอบถามรายละเอียดกับผู้จำหน่ายโดยตรง โดยเฉพาะกับเงื่อนไขที่สำคัญต่างๆ เนื่องจากมีหลายครั้งที่ผู้บริโภคไม่เข้าใจกับกฎเกณฑ์ที่ผู้จำหน่ายตั้งขึ้น จนเกิดเป็นปัญหา ดังนั้นแล้วเมื่อซื้อเมนบอร์ดทุกครั้งให้สอบถามข้อสงสัยอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลา เงื่อนไขความเสียหาย เคลมเปลี่ยนหรือเคลมซ่อม รวมถึงการตรวจสอบ Void Warranty การประกันที่ติดอยู่บนเมนบอร์ดให้ถูกต้อง ในส่วนของระยะเวลา เดือนปีที่รับประกัน แต่ผู้จำหน่ายบางรายติดเพียง Serial number ให้ลูกค้าตรวจสอบได้เองผ่านเว็บไซต์ของตนหรือแม้กระทั่งเช็กสถานนะเมื่อส่งเคลมได้อีกด้วย ส่วนเงื่อนไขหลักของการรับประกันที่ใช้กันอยู่ทั่วไปคือ ไม่แตกหัก ไหม้หรือรอยขูดขีดที่ลึกถึงส่วนของสายพรินต์ ซึ่งผู้ใช้ควรจะต้องรับทราบในเงื่อนไขเบื้องต้นไว้เพื่อการระมัดระวังขณะติดตั้ง เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับชิปเซตของเมนบอร์ด Intel X38 และ X48 เป็นชิปเซตสำหรับเพาเวอร์ยูสเซอร์ที่ต้องการศักยภาพและฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกม และการทำงานโดยเฉพาะซึ่งออกมารองรับการทำงานร่วมกับซีพียูในรุ่น Core 2 Duo และ Core 2 Quad รวมถึง Core 2 Extreme ได้เป็นอย่างดี ด้วยการรองรับบัส 1333MHz, Multi-GPU ผ่านทาง PCI-Express X162 ช่อง สนับสนุนการต่อพ่วงฮาร์ดดิสก์แบบ RAID และใช้งานร่วมกับหน่วยความจำ DDR2/DDR1066 นับเป็นชิปเซตรุ่นใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจผู้ที่ชอบความแรงโดยเฉพาะส่วนทางผู้ใช้ซีพียู AMD ก็มีให้เลือกอยู่มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น nForce 570 หรือ 590 SLI ที่มาพร้อมฟีเจอร์ สำหรับคอเกมโดยเฉพาะ ด้วยการสนับสนุนการต่อพ่วงกราฟิกการ์ดในแบบ SLI 16X ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานรองรับหน่วยความจำ DDR2 800รวมไปถึงการรองรับฮาร์ดดิสก์ในแบบ SATA2 ที่มาพร้อมฟังก์ชันการต่อพ่วงแบบ RAID ตลาดกลางเน้นที่ฟังก์ชันการใช้งาน Intel 945P, 965P และ P35 ยังคงเป็นชิปเซตที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่าในการใช้งานโดยทั่วไป ที่แม้ว่าจะเป็นชิปเซตรุ่นเก่า แต่ก็ยังมีฟังก์ชันที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานร่วมกับซีพียูได้ทั้ง Core 2 Duo และ Core 2 Quad รองรับหน่วยความจำ DDR2 800 สนับสนุนการต่อพ่วงกราฟิกการ์ดในแบบ Multi-GPU รวมถึงรองรับฮาร์ดดิสก์ SATA2 และยังต่อพ่วงกันในแบบ RAID ได้อีกด้วย นับเป็นชิปเซตที่มีความคุ้มค่าสูง อีกทั้งมีฟีเจอร์ไม่เป็นรองชิปเซตรุ่นใหญ่สำหรับผู้ใช้ AMD ก็มีชิปเซตหลายรุ่นให้เลือกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น nForce 500 หรือ 550 แม้ว่าจะเป็นชิปเซตระดับกลาง แต่ก็ให้ประสิทธิภาพในการทำงานและการสนับสนุนอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ได้น่าประทับใจทีเดียว ทั้งการรองรับซีพียู Athlon64 X2, Athlon 64 และ Sempron ร่วมกับหน่วยความจำ DDR2 800 และมีสล็อตสำหรับกราฟิกการ์ด PCI-Express 16X รวมถึงระบบ RAID SATA 2 ตลาดล่างเน้นความประหยัดด้วยชิปอินทิเกรต สำหรับผู้ใช้อินเทลที่เน้นความประหยัดหรือชื่นชอบเมนบอร์ดที่มีทุกอย่างครบเครื่อง ทั้งเรื่องภาพและเสียงโดยชิปเซตทางอินเทลมีให้เลือกอยู่หลายรุ่นด้วยกัน ซึ่งใช้รหัส G ในซีรีส์ ไม่ว่าจะเป็น945G/965Gที่มีกราฟิกGMA900/950เข้ามารับหน้าที่ในการประมวลผลสามมิติ ซึ่งเน้นที่ความคุ้มค่าเป็นหลัก เนื่องจากรองรับ Core2Duonได้เช่นกัน แต่หากจะเลือกรุ่นที่ประสิทธิภาพสูงขึ้นแล้วปัจจุบัน Intelก็มีชิปเซตในตระกูลใหม่มาให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น G33 และ G35 ซึ่งทั้งคู่เป็นสายเลือดเดียวกับ P35 และ X38 จึงรองรับกับซีพียูรุ่นใหม่ๆ ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการสนับสนุนหน่วยความจำ DDR2 800 และมี PCI-Express X 16 สำหรับกราฟิกการ์ดอีกด้วยโดยเมนบอร์ดในกลุ่มดังกล่าวนี้ ส่วนใหญ่ เป็นมาตรฐาน mATX ชิปกราฟิกที่ติดมากับเมนบอร์ด GMA900/950/x3000ติดตั้งอยู่บน Intel 945G และ965G มีความเร็วในการทำงานGPU 250-400MHz และแชร์หน่วยความจำได้สูงสุด 224MBX3100ถูกติดตั้งอยู่บน Intel G31/G33 มีความเร็วสัญญาณนาฬิกา 500MHz และแชร์หน่วยความจำได้ถึง 384MBจุดเด่นของชิปเซตกราฟิกอินทิเกรตของทาง Intel ะอยู่ที่การแชร์หน่วยความจำแบบ Dynamic (DVMT) โดยระบบจะดึงหน่วยความจำหลักมาใช้เฉพาะที่จำเป็นนั้น ไม่เก็บเป็นการถาวร ดังนั้นจึงทำให้ระบบหลักก็จะไม่เสียประสิทธิภาพไปต่างจากการแชร์ในอดีต ที่จะดึงมาใช้เป็นการถาวร
ความละเอียด (Resolution) ถ้ามองไปในตลาด ณ วันนี้ความละเอียดส่วนใหญ่ถูกกำหนดด้วยขนาดของจออยู่แล้ว เช่น จอขนาดเล็ก 15” ก็จะให้ความละเอียดที่ 1024x768 แต่ถ้าเป็น 22”จะอยู่ที่ 1680x1050ซึ่งการจะเลือกใช้ ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบในการทำงานไม่วาจะเป็น การเล่นเกม ชมภาพยนตร์ งานเอกสาร ตัดต่อกราฟิก ก็ล้วนแต่มีข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไป ขนาดหน้าจอและความละเอียดของ LCD ที่พบกันบ่อยในตลาด
จอธรรมดาหรือจอกระจก เรื่องของหน้าจอแสดงผล ถือเป็นอีกส่วนหนึ่งที่หลายคนนำมาใช้ในการเลือกซื้อ LCD ด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกทั้งแบบจอแบบเคลือบเงาหรือที่เรียกว่า จอกระจก จอแบบดังกล่าวนี้มีคุณสมบัติที่ดีในการชมภาพยนตร์และเล่นเกม เนื่องจากให้สีสันที่สดใสและแสงที่สว่างจึงมักได้รับความนิยมหมู่คนที่ชอบความบันเทิงเป็นหลัก แต่ราคาจะค่อนข้างสูงส่วนอีกแบบหนึ่งเป็นจอธรรมดา คุณสมบัติที่ดีอยู่ที่การให้ความคมชัดที่สูง ไม่เน้นที่ความสว่างมากนัก จึงเหมาะกับผู้ที่ใช้งานอยู่หน้าจอเป็นเวลานานๆ นอกจากนี้ยังไม่มีการสะท้อนรบกวนของแสงเช่นเดียวกับจอกระจก ที่แม้จะมีการโค๊ตติ้งมาแล้วก็ตาม อีกทั้งจอแบบดังกล่าวยังมีราคาที่ไม่สูงอีกด้วย ทั้งสองแบบนี้เอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ส่วนการจะเลือกแบบใดนั้นให้ดูที่ความต้องการใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นหลัก Response Time สำคัญเพียงใด เป็นอัตราความเร็วในการตอบสนองของเม็ดสี ในการเปลี่ยนสีจากดำมาเป็นขาวแล้วกลับเป็นดำ (B/W)หรือบางครั้งอาจเป็นจากสีเทามาเป็นเทา(G/G)โดยบอกเวลาเป็นวินาทีซึ่งตัวเลขยิ่งน้อย ก็จะส่งผลให้การแสดงภาพมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น หากตัวเลขมากหรือช้า อาจเกิดอาการที่เรียกว่าภาพซ้อนหรือ Ghost เกิดขึ้น จนทำให้การเล่นเกมหรือการชมภาพยนตร์เสียอรรถรสไป ดังนั้นการเลือกซื้อปัจจุบันควรจะอยู่ที่ 2-8ms โดยประมาณ Contrast Ratio ค่า Contrast Ratio เป็นค่าที่นำมาใช้ในการวัดอัตราส่วนของความสว่างและความมืด ว่ามีมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะส่งผลต่อความคมชัด สมจริงที่เกิดขึ้นในภาวะแสงต่างๆ การเลือกให้ดูตัวเลขที่สูงเป็นหลัก โดยปัจจุบันมีให้เลือกตั้งแต่ 500 : 1, 700 : 1, 1000 : 1, ไปจนถึงบางค่ายมีให้เลือกถึง 5000 : 1 ซึ่งก็แล้วแต่การวัดว่าเป็นแบบ Native หรือ Dynamic พอร์ต D-Sub DVI, HDMI ในส่วนของพอร์ตแสดงผล หากเป็นไปได้ควรเลือกจอที่มีพอร์ตแบบ DVI มาให้หรือมีให้ 2 แบบคือทั้ง D-Sub และ DVI เนื่องจากปัจจุบัน แม้ว่าการแสดงผลจะยังมีพอร์ต D-Sub ให้ใช้อยู่ก็ตาม แต่แนวโน้มในไม่ช้ากราฟิกการ์ดจอรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมานั้น จะมีแต่พอร์ตที่เป็น DVI เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการ์ดหลายรุ่นจะเป็นแบบ Dual DVI อีกด้วย จึงไม่จำเป็นต้องหาตัวแปลงสัญญาณมาใช้ นอกจากนี้DVI ยังให้สัญญาณที่นิ่งกว่า เนื่องจากไม่ต้องแปลงจากดิจิตอลเป็นอะนาล็อกไปมาอีกด้วย การรับประกัน ประกัน Dot หรือ Dead pixels ให้สอบถามจากทางร้านให้ละเอียดครบถ้วน ทั้งในเรื่องของจำนวน Dot ที่เสีย จำนวนเท่าใดเคลมได้หรือมากกี่จุดถึงยอมให้เปลี่ยนตัวใหม่ ซึ่งต้องขอความชัดเจนให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในขึ้นตอนการเคลม จึงค่อยนำออกจากร้าน การเลือกซื้อ ฮาร์ดดิสด์ ปัจจุบันฮาร์ดดิสก์ที่ใช้กันบนพีซีทั่วไปนั้น แบ่งเป็น 2 แบบคือ IDE หรือ (E-IDE) และ SATA ซึ่งทั้ง 2 แบบ มีรูปแบบและอินเทอร์เฟชในการติดต่อข้อมูลแตกต่างกันไป แต่ในตลาด ณ เวลานี้ ส่วนใหญ่เราจะเห็นในแบบ SATA และ SATA2 กันมากกว่า โดยที่ฮาร์ดดิสก์ในแบบ IDE ดูจะถูกลดบทบาทลงอย่างมาก เหตุผลมาจากที่แมนบอร์ดในปัจจุบันมีพอร์ตสำหรับ IDE เพียงช่องเดียว ซึ่งต่ออุปกรณ์ได้ 2 ตัว แต่ตัวหนึ่งก็ถูกใช้กับออฟติคอลไดรฟ์ไปแล้ว จึงเป็นเรื่องยากในการอัพเกรด ดังนั้นแล้วการใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SATA จึงเป็นทางเลือกที่ดูคุ้มค่าที่สุด ด้วยความเป็นอุปกรณ์ที่เปรียบเสมือนโรงงานจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่และต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา การเลือกซื้อจึงควรให้การพิจารณาเป็นพิเศษ ความจุของฮาร์ดดิสก์
แม้ว่าความจุที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันจะมีมากถึง 1000 GB หรือ 1Terabyte การเลือกใช้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมในการใช้งานและค่าใช้จ่ายเป็นหลัก เพราะถึงแม้บางครั้ง ฮาร์ดดิสก์ความจุสูงดูจะคุ้มค่ากว่าความจุที่ต่ำกว่าก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามรูปแบบการใช้งานของคุณก็ยังถือเป็นเรื่องสำคัญกว่าอยู่ดีโดยความจุก็มีให้เลือกตั้งแต่ 80/120/160/200/250/320/500/750 และ 1000GB ซึ่งเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม ความเร็วรอบสำคัญไฉน สำหรับฮาร์ดดิสก์เดสก์ทอปมีจำหน่ายอยู่ทั่วไป ก็มีให้เลือกตั้งแต่ 5400rpm/7200rpm และ 10,000rpm ซึ่งที่พบกันมากที่สุดจะเป็นแบบ 7200rpm ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงบและราคาไม่แพง แต่สำหรับ 10,000rpm นั้น ส่วนใหญ่จะพบบนฮาร์ดดิสก์รุ่นพิเศษ ที่ออกแบบมาเพื่องานบางอย่างโดยเฉพาะ เช่น การเล่นเกม ทำกราฟิกหรืองานตัดต่อ ที่ต้องการความเร็วสูงในการเปิดไฟล์หรือการดึงไฟล์ข้อมูลเพื่อเรนเดอร์ดังเช่นฮาร์ดดิสก์ Raptor จากค่าย WD หรือ Cheetah จากค่าย Saegate ด้วยความเร็วในการทำงานที่สูง จึงต้องใช้กระบวนการผลิตและวัสดุที่มีคุณภาพสูง จึงทำให้ฮาร์ดดิสก์ประเภทนี้มีราคาที่แพงพอสมควร บัฟเฟอร์สำคัญมากเพียงใด คำตอบคือ สำคัญมากทีเดียว ไม่ใช่เพียงกับการทำงานเฉพาะทางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเล่นเกม มัลติมีเดียและซอฟแวร์พื้นฐานทั่วไปอีกด้วย ด้วยการสำรองข้อมูลบางส่วนในการใช้งานเอาไว้ เพื่อที่จะเรียกใช้ได้เร็วยิ่งขึ้น และแน่นอนว่ายิ่งบัฟเฟอร์สูงกว่าราคาก็จะกระโดดไปกว่า 20% เลยทีเดียวโดยผู้ใช้ทั่วไปอาจเลือกที่ระดับมาตรฐาน 8MB ก็เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ถ้าหากต้องการประสิทธิภาพที่สูงขึ้น สำหรับเกมเมอร์หรือการตัดต่อ อาจเลือกเป็นรุ่น 16MB หรือ 32MB ก็ตอบสนองกับงานในหลายส่วนได้ดีทีเดียว Average Seek Time เป็นเวลาในการเข้าถึงข้อมูลโดยเฉลี่ย ซึ่งจะเป็นตัวเลขที่ระบุมากับฮาร์ดดิสก์ทุกรุ่น โดยส่วนใหญ่สำหรับฮาร์ดดิสก์ทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 12-14ms แต่ถ้าเป็นฮาร์ดดิสก์ความเร็วสูงก็จะอยู่ที่ 8ms ตัวเลขดังกล่าวยิ่งน้อยยิ่งหมายถึงการเข้าถึงข้อมูลที่เร็วขึ้น อินเทอร์เฟชบนฮาร์ดดิสก์ ในตลาดเวลานี้มีให้เลือก 2 แบบด้วยกันคือ IDE และ SATA (SATA150 และ SATA300) ส่วนนี้ก็คงต้องเลือกใช้ตามความเหมาะสม แม้ว่าในหลายการทดสอบฮาร์ดดิสก์แบบ SATA มีความเร็วกว่า IDE เพียงไม่มาก แต่ต้องไม่ลืมว่าเมนบอร์ดในปัจจุบัน มีพอร์ตสำหรับ IDE น้อยลง ทางเลือกที่เป็น SATA ก็ดูน่าสนใจอยู่ไม่น้อย นอกจากนี้การสายสัญญาณยังมีขนาดเล็ก จึงทำให้อากาศไหลเวียนภายในเคสได้ดียิ่งขึ้น ฮาร์ดดิสก์แบบพิเศษ นอกจากฮาร์ดดิสก์แบบพื้นฐานที่มีจำหน่ายทั่วไปแล้ว ยังมีฮาร์ดดิสก์อีกกลุ่มหนึ่งที่ผู้ผลิตจัดทำออกมาเป็นพิเศษ เพื่องานหรือความต้องการที่แตกต่างออกไป โดยมีตั้งแต่ วิธีตรวจสอบฮาร์ดดิสก์ได้อย่างง่ายๆ สามารถใช้โปรแกรม HD Tune ทดสอบประสิทธิภาพและความผิดปกติของฮาร์ดดิสก์ ด้วยการมอนิเตอร์ให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งดาวน์โหลดได้ที่ www.hdtune.xom หรือจะบริหารข้อมูลและไดรฟ์ได้ด้วยตัวเอง ผ่านระบบ Manage ของระบบวินโดวส์ ด้วยการเมาส์ขวาที่ My Computer จากนั้นเลือกหัวข้อ Manage
ต้องมีการระบายความร้อนที่ดี การติดตั้งพัดลมระบายความร้อนถือว่า เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ทำให้ต้องเลือกเคสที่มีพัดลมระบายความร้อนด้านข้างหรือด้านบนก็จะเป็นการดี แต่อย่างไรก็ตามาให้ติดตั้งเพียงพอเหมาะในการใช้งานเท่านั้น หากใส่พัดลมมากเกินไปก็อาจส่งผลให้เพาเวอร์ซัพพลายจ่ายไฟไม่เพียงพอ เกิดเสียงดังรบกวนจนน่ารำคาญ อีกทั้งทำให้ฝุ่นเข้าไปเกาะตามอุปกรณ์ต่างๆ มากไปอีกด้วยมีความปลอดภัยในการติดตั้งเคสที่ดีต้องมีการเก็บรายละเอียดงานได้พอสมควร ไม่มีเหลี่ยมคมให้บาดมือได้ นอกจากนี้เคสบางรุ่นยังบุแถบยางในจุดที่ต้องสอดมือเข้าไปติดตั้งอย่างเช่น เพาเวอร์ซัพพลายหรือฮาร์ดดิสก์ ซึ่งช่วยป้องกันการถูกบาดหรือขูดกับผิวหนังได้ดีทีเดียว ความสะดวกในการติดตั้งและจัดวางอุปกรณ์ ปัจจุบันผู้ผลิตเคสส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับฟังก์ชัน สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์มากขึ้น ดังนั้นแล้วผู้ใช้ที่ชอบเล่นฮาร์ดแวร์ มีการถอดเข้า-ออกบ่อยๆ การเลือกเคสที่เป็นแ บบถอดประกอบง่ายๆ ดูจะเป็นทางเลือกที่ดี ไม่ทำให้หงุดหงิดใจเวลาติดตั้ง ซึ่งเคสแบบดังกล่าวอาจมีราคาสูง แต่ในการติดตั้งและแกะออก โดยไม่ทำให้ฮาร์ดแวร์ช้ำหรือเกิดการกระแทกย่อมคุ้มค่าอย่างแน่นอน โดยมีรูปแบบที่น่าสนใจคือ ถาดด้านหลังสามารสไลด์ออก สำหรับติดตั้งเมนบอร์ดได้ง่ายขึ้ นหรือการยึดอุปกรณ์เข้ากับตัวเคสเป็นแบบไม่ใช้ไขควง (Screwless) ซึ่งมีผู้ผลิตหลายค่ายเริ่มใ ห้ความสนใจกันมากขึ้น เทคนิครูปแบบดังกล่าว จะช่วยให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องนำไขควงมายึดน็อตทีละตัว แต่จะใช้เป็นสลักยึดที่ล็อกติดกับตัวเคสได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นอ อปติคอลไดรฟ์ ฮาร์ดดิสก์หรือเมนบอร์ดก็ตาม รวมไปถึงการติดตั้งการ์ดต่อพ่วงก็ง่ายขึ้น เพียงใช้สลักยึดกับตัวการ์ดหลังการติดตั้งได้ทันที ทำให้การติดตั้งเป็นไปอย่างรวดเร็ว การเลือกเคสให้ได้ถูกใจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามถูกใจเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาคุณสมบัติและความต้องการในการใช้งานด้วย เรื่องขอ งราคาก็อาจเป็นสิ่งที่ช่วยในการตัดสินใจเช่นกัน ดังนั้นขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้ใช้ ในการเลือกให้น้ำหนักกับส่วนใดระหว่างรูปลักษณ์ ความสะดวกและราคา
SLI/ CrossFire
กราฟิกการ์ดราคาประหยัด
nVIDIA : GeForce 7300/ 7600/ 8400
การ์ดในกลุ่มนี้ เหมาะสำหรับการเล่นเกมพื้นฐานทั่วไป รวมทั้งเกมวางแผนในแบบ RTS ไม่ว่าจะเป็น Earth of Empire, Battle field หรือ Company of Heroes ที่ไม่ได้มีความซับซ้อนในการประมวลผลมากนัก แต่อาศัยบัฟเฟอร์ในการจัดการระบบยูนิตมากกว่า รวมถึงการรองรับกับเกมออนไลน์ได้ดีพอสมควร คุณสมบัติหลักๆ ของการ์ดรุ่นนี้คือ หน่วยความจำ GDDR2 (64-bit และ 128-bits) ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 – 2,500 บาทเท่านั้น กราฟิกการ์ดสำหรับเกมเมอร์ระดับกลาง nVIDIA : GeForce 8500GT/ 8600GT/ GTS การ์ดระดับกลางนี้ รองรับกับเกมได้เกือบทุกประเภทไม่ว่าจะเ ป็นเกมเดินหน้ายิง วางแผน อันเป็นเกมที่ต้องอาศัยเอนจิ้นหรือ AI ในการคำนวณ รวมถึงการเรนเดอร์พื้นผิวและเอฟเฟ็กต์ ไม่ว่าจะเป็นเกม Call of Duty, Crysis, Sprinter Cell หรือ BioShock แต่การเล่มเกมก็อาจปรับที่ความละเอียดที่สูงกว่า 1280 x 1024 ได้ไม่ยาก แต่ในเรื่องเอฟเฟ็กต์ต่างๆ อาจทำได้ไม่เต็มที่ แต่สำหรับเกมออนไลน์การ์ดระดับนี้เล่นได้สบาย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีฟีเจอร์พิเศษ ในการถอดรหัสไฟล์ Hi-Def ได้อย่างสมบูรณ์ การ์ดในรุ่นนี้ มีทั้งแบบ GDDR2 และDDR3 (128-bits และ 256bits) ขึ้นอยู่กับรุ่นและราคา โดยที่การ์ด GeForce 8500GT/8600GT และ HD 2600XT/ HD 3850 มีราคาอยู่ที่ 4,000 – 6,500 บาท โดยป ระมาณ กราฟิกสำหรับเกมเมอร์ระดับฮาร์ดคอร์ nVIDIA : GeForce 7900/ 8800 สำหรับตลาดบนที่มาแรงคงหนีไม่พ้น GeForce 8800GT/ GT S และ HD3870/ HD2900 ซึ่งการ์ดเหล่านี้ตอบสนองได้ดีกับหลายๆ เกม ไม่ว่าจะเป็น Call of Duty, Lost Planet หรือ Gear of War ด้วยคุณสมบัติของโครงสร้างภายในที่มี Pipeline และชุดประมวลผลทรงพลัง โดยเฉพาะกับ Stream Processor และหน่วยความจำในแบบ GDDR3 และ GDDR4 ที่มีตั้งแต่ 512MB ไปจนถึง 1GB (256-bits) และยังรองรับการทำงานร่วมไฟล์ Hi-Def ได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้การ์ดกลุ่มนี้ค่อนข้างได้รับความนิยม แม้ว่าบางรุ่นจะมีราคาสูงกว่า 15,000 บาทก็ตามการ์ดระดับบนนี้ แน่นอนว่ารองรับกับเกมในปัจจุบันได้อย่างสบาย บนโ หมดความละเอียดที่สูงระดับ 1600 x 1200 รวมถึงการเปิดเอฟเฟกต์ต่างๆ ที่กล่าวได้ว่าคุ้มค่ามาก สำหรับผู้ที่มีงบประมาณมากและต้องการความสวยงาม ต่อเนื่องของเกมอย่างแท้จริงATI : RADEON HD3870/ 2900
เลือกแบบ Single ความจุสูงแถวเดียวหรือ Dual ความจุเท่ากัน 2 แถวดี
องค์ประกอบอื่นๆ
ดูเหมือนว่าจะเป็นแรมอุปกรณ์ไม่กี่ชนิด ที่ใช้การรับประกันแบบ Life Time Warranty มาเป็นจุดขาย แต่ก็คงต้องทำความเข้าใจกับรูปแบบการรับประกันดังกล่าวนี้ด้วย การรับประกันตลอดชีพ จะหมายถึงการรับประกันไปจนถึงช่วงที่สิ้นสุดการผลิตของแรมรุ่นดังกล่าวเท่านั้น แต่ถ้าเกิดมีปัญหาหลังจากนั้น ทางผู้จัดจำหน่าย อาจให้เลือกเปลี่ยนเป็นรุ่นอื่น อาจเป็นรุ่นที่ดีกว่าหรือถูกกว่า รวมถึงในบางครั้งอาจต้องจ่ายส่วนต่างด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจและการตกลงกันของผู้ซื้อและผู้จำหน่าย ส่วนเงื่อนไขการรับประกันให้ตกลงกับผู้จำหน่ายให้เป็นที่เข้าใจ แต่ส่วนใหญ่การรับประกันจะไม่รวมไปถึง การแตกหักเสียหาย เม็ดแรมหลุดหรือบิ่น จะมีเพียงบางค่ายที่ยอมรับได้ในเรื่องการไหม้ รวมถึงการเก็บใบเสร็จหรือใบรับประกันไว้ให้เรียบร้อย สำหรับการยืนยันกับร้านค้า หากเกิดปัญหาในขั้นตอนการเคลม อ้างอิง : http://www.bcoms.net/buycomputer/index.asp |
วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2552
การเลือกซื้ออุปกรณ์
การเลือกซื้อซีพียู
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น